คนไทย...ผู้ชาญฉลาดย่อมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ดีที่สุด
องค์กรทางการแพทย์แนะนำให้ทานอาหารเสริมหรือเปล่า?
โดย Lyle McWilliam, BSc, MSc, FP

USANA Health Sciences, Inc.
ยูซาน่า เฮลธ์ ไซแอนซ์ อิงค์

เป็นเวลา 20 ปีแล้ว ที่สมาคมการแพทย์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (American Medical Association) ได้เปลี่ยนจากการต่อต้านการบริโภคอาหารเสริม มาเป็นสนับสนุนให้ผู้ใหญ่ทานอาหารเสริมทุกๆ วัน
USANA ยูซาน่า
มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เด่นชัดโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาเวิร์ด, ดอกเตอร์ Robert Fletcher และ ดอกเตอร์ Kathleen Fairfield ได้ทำให้สมาคมวารสารทางการแพทย์แห่งอเมริกัน (Journal of the American Medical Association หรือ JAMA) ซึ่งมีความเป็นนักอนุรักษ์นิยมต้องเปลี่ยนนโยบายเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเสริม
ยูซาน่า USANA
มีรายงาน 2 รายงานที่ถูกพิมพ์เผยแพร่โดย JAMA เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2545, ผู้เขียนได้สรุปการบริโภคของประชาชนในทวีปอเมริกาเหนือในขณะนั้นว่า เพียงพอที่จะป้องกันตนเองจากการเป็นโรคขาดสารอาหาร เช่น โรคเลือดออกตามไรฟัน, โรคขาดวิตามินบี แต่ไม่เพียงพอสำหรับการมีสุขภาพดีในระดับสูงสุด
USANA ยูซาน่า
การบริโภควิตามินในปริมาณที่ไม่เพียงพอเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังอย่างชัดเจน จากหลักฐานล่าสุดแสดงให้เห็นว่าการทานอาหารเสริมต่ำกว่าระดับที่เพียงพอต่อการมีสุขภาพดีในระดับสูงสุด ถึงแม้จะสูงกว่าระดับที่ทำให้เกิดโรคขาดสารอาหาร ก็ยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ, มะเร็ง และ โรคกระดูกพรุน ประชากรจำนวนมากมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังเพราะเหตุนี้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
โดย Dr. Robert Fletcher และ Dr. Kathleen Fairfield

USANA ยูซาน่า
จากการศึกษา ผู้เขียนได้ตรวจสอบสารอาหารหลายชนิด รวมถึง วิตามิน เอ, บี 6, บี 12, ซี, ดี, อี, เค, ฟูลิค แอซิด และ carotenoids หลายชนิด (อัลฟ่า- และ เบต้าแคโรทีน, cryptoxanthin, zeazanthin, ไลโคปีน และ ลูทีน) ซึ่งได้ข้อสรุปดังต่อไปนี้

· กรดโฟลิค, วิตามินบี 6 และ บี 12 มีความจำเป็นต่อกระบวนการ homo cysteine metabolism และการได้รับวิตามินเหล่านี้ในปริมาณต่ำจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
· สภาวะที่ร่างกายมีกรดโฟลิคไม่เพียงพอจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการผิดปกติของเส้นประสาทและโรคมะเร็ง
· พบว่า วิตามินอี และ ไลโคปีน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
· วิตามินดีช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน และ กระดูกร้าว เมื่อทานควบคู่กับแคลเซียม

· การได้รับวิตามินบี 12 ที่ไม่เพียงพอ มีความเกี่ยวข้องกับการเกิด โรคโลหิตจาง และความสับสนของระบบประสาท
· การได้รับ caroteniods ในระดับต่ำ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งที่ ทรวงอก, ต่อมลูกหมาก และ ปอด
· การได้รับวิตามินซี ที่ไม่เพียงพอ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง
· และ สภาวะที่มีวิตามินเอต่ำ มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาการมองเห็น และ การทำงานบกพร่องของฮอโมน

USANA ยูซาน่า
จากที่เคยต่อต้านการทานอาหารเสริมเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผู้เขียนได้สรุปว่า จากการบริโภคอาหารในทุกวันนี้ การทานอาหารเสริมทุกวันเป็นการป้องกันตัวเองที่รอบคอบจากการเป็นโรคเรื้อรัง นักวิจัยให้คำแนะนำนี้เนื่องจากพบว่า มากกว่า 80% ของประชากรอเมริกันไม่ได้ทานผลไม้หรือผัก 5 มื้อต่อวันเพื่อให้มีสุขภาพดีในระดับสูงสุดเลย

พวกเราทุกคนเติบโตขึ้นมาด้วยความเชื่อที่ว่า ถ้าเราบริโภคอาหารอย่างมีเหตุผล จะช่วยให้เราได้รับสารอาหารครบถ้วนตามต้องการ แต่ตามหลักฐานใหม่ที่เราได้รับ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ก็คือ วิตามินก็ช่วยป้องกันการเกิดโรคที่เราต้องเผชิญอยู่ทุกๆ วัน เช่น โรคหัวใจ, โรคกระดูกพรุน และการแท้งลูก ด้วยเหมือนกัน
โดย Dr. Robert Kletcher

บทสรุปของ JAMA เกี่ยวกับอาหารเสริมในช่วงปี 1980 ระบุว่า คนที่มีสุขภาพปกติไม่มีความจำเป็นต้องทานอาหารเสริม เพราะสามารถได้รับสารอาหารที่ต้องการจากทานอาหาร โดยฉับพลัน สิ่งที่พบจากการประกาศของ JAMA ในปัจจุบันนี้ก็คือ อาหารเสริมมีความสำคัญต่อสุขภาพของคุณมาก โดยเน้นย้ำถึงหลักฐานทางวิทยาศาตร์ที่เข้มแข็งที่เพิ่งเปิดเผยในขณะนี้
USANA ยูซาน่า
บทประกาศของ JAMA ได้กล่าวย้ำถึงความกังวลของผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเสริมที่มีต่อ ปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้ทานในแต่ละวัน (Recommended Daily Allowances หรือ RDAs) สำหรับวิตามินและเกลือแร่ ว่ามันต่ำมากเกินไป
USANA ยูซาน่า
โดยเริ่มแรกนั้น ปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้ทานในแต่ละวัน (RDAs) ถูกตั้งขึ้นเพื่อป้องกันการได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม จากหลักฐานทิ่มีเพิ่มขึ้นช่วยสนับสนุนข้อโต้แย้งที่ว่า ระดับที่สูงกว่าสำหรับวิตามินและเกลือแร่หลายชนิด มีความจำเป็นเพื่อให้มีสุขภาพดีในระดับสูงสุด
USANA ยูซาน่า
หลักฐานจำนวนมากที่ช่วยสนับสนุนความต้องการบริโภคอาหารเสริมทุกวันเพื่อเป็นการป้องกันตนเองได้มาจากการศึกษาที่มีฐานประชากรขนาดใหญ่ หนึ่งในการศึกษาเหล่านี้ คือ การศึกษาโดย 3 นักวิทยาศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง ซึ่งเป็นผู้ที่สมควรได้รับรางวัลโนเบล, ดอกเตอร์ Linus Pauling, ดอกเตอร์ Richard Passwater และ ดอกเตอร์ Jim Enstrom พวกเขาได้ศึกษาอัตราการตายของผู้สูงอายุชาวแคลิฟอร์เนีย และสิ่งที่พวกเขาค้นพบนั้นไม่ธรรมดา

· อัตราการเสียชีวิตของผู้ที่ทานอาหารเสริมต่ำกว่าอัตราการเสียชีวิตของผู้ที่ไม่ทานอาหารเสริมอย่างเห็นได้ชัด
· ผู้ชายที่ทานอาหารเสริมมีอัตราเสี่ยงที่จะเสียชีวิตต่ำกว่า 22%
· ผู้หญิงที่ทานอาหารเสริมมีอัตราเสี่ยงที่จะเสียชีวิตต่ำกว่า 46%
USANA ยูซาน่า
หลังจากนั้น ดอกเตอร์ Enstrom และทีมงานพบว่า การทานอาหารเสริมวิตามินซีในปริมาณมากกว่า 250 มิลลิกรัมต่อวัน (มากกว่ามาตรฐาน RDAs) จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ชายจากโรคหลอดเลือดหัวใจสูงถึง 42% และช่วยลดอัตราการตายจากทุกสาเหตุประมาณ 35% โดยประมาณจะทำให้มีชีวิตยืนยาวขึ้นประมาณ 6 ปี
USANA ยูซาน่า
จากการศึกษาโดยให้ประชากรจำนวนมากทานวิตามินอี พบว่า วิตามินดี ช่วยลดอัตราเสี่ยงจากการเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจ การศึกษาที่มีกลุ่มตัวอย่างเป็น ผู้ชายจำนวน 39,910 คนซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และ ผู้หญิงจำนวน 87,245 ซึ่งเป็นพยาบาล พบว่าผู้ชายและผู้หญิงที่ทานวิตามินอี มากกว่า 2 ปี มีอัตราการเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจลดลง 37% และ 41% ตามลำดับ ผลลัพธ์เหล่านี้สอดคล้องกับการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ของมหาวิทยาลัย Laval ที่ Quebec ประเทศแคนาดา ที่พบว่า ช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือด 69% และลดอัตราการตายจากโรคเกี่ยวกับหัวใจ 47% ในหมู่ผู้ที่ทานอาหารเสริมในระยะยาว ผลลัพธ์นี้ชี้ให้เห็นว่าการทานอาหารเสริมที่มีคุณภาพสูงเป็นประจำทุกวันเป็นสิ่งจำเป็นต่อการมีสุขภาพดีในระยะยาว
USANA ยูซาน่า
ที่มา Nutrisearch Comparative Guide to Nutritional Supplements, 4th Edition


สนใจร่วมทำธุรกิจอันดับ 1 ของโลก
ซึ่งผลิตภัณฑ์ได้รับเรตติ้งอันดับ 1 กรุณาติดต่อ


Richest Family
086-357-6794
086-357-6550

Email:
waggali5@gmail.com